วิธีเลือกพลาสติกป้ายราคา

การเลือกซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าหรือตามร้านค้าทั่วๆ ไป เรามักจะเห็นสินค้าประเภทเดียวกันแต่หลากหลายยี่ห้อวางเรียงปะปนกันไปในชั้นวางสินค้าเดียวกันโดยปัจจัยที่สำคัญที่ช่วยผู้ซื้อตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า คือ การจัดวางสินค้ากับราคา โดยราคาของสินค้าเราสามารถเห็นได้จากป้ายราคา ซึ่งป้ายราคาที่สามารถพบเห็นได้ในแต่ละที่ก็จะแตกต่างกันไปตามความเหมาะสม การใช้งานและความสวยงาม  ส่วนในเรื่องของการจัดวางสินค้าที่ส่งผลให้เกิดการซื้อสินค้านั้นได้แก่ ความสะอาดของแพ็คเกจและชั้นวางสินค้า ความสะดวกในการเลือกซื้อและความเป็นระเบียบของสินค้า

โดยป้ายราคาที่เรามักจะเห็นได้ทั่วไปมักจะเป็นพลาสติกป้ายราคาทั้งสิ้น เนื่องด้วยเรื่องของความสวยงาม ความคงทนและการมีส่วนช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อมที่รณรงค์กันเป็นอย่างมากในปัจจุบันเพราะป้ายราคาที่ทำจากพลาสติกนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะมีส่วนประกอบที่เป็นพลาสติกมากกว่า 95% โดยสามารถทำมาจากพลาสติกที่ผ่านการรีไซเคิลมาแล้วหรือสามารถนำกลับไปรีไซเคิลใช้ใหม่ได้อีกครั้ง

พลาสติกป้ายราคา

วิธีการเลือกซื้อพลาสติกป้ายราคา

เราสามารถพบเห็นพลาสติกป้ายราคาได้ทั่วๆ ไปทั้งห้างสรรพสินค้าชั้นนำและตามร้านสะดวกซื้อเกือบทุกร้าน เนื่องจากข้อดีในด้านต่างๆ ที่ได้กล่าวไปข้างต้นจึงทำให้ป้ายราคาที่ทำจากพลาสติกเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายโดยวิธีในการเลือกซื้อป้ายราคานั้นสามารถเลือกจาก

  1. สีและความใส โดยสีจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับชั้นวางสินค้าและสินค้าบนชั้นวางมากยิ่งขึ้น ส่วนความใสของป้ายนั้นจะช่วยให้ผู้ซื้อสามารถเห็นรายละเอียดต่างๆ ของป้ายอย่างชื่อสินค้าและราคาได้อย่างชัดเจนซึ่งจะช่วยในเรื่องของการตัดสินใจซื้อได้เป็นอย่างดี
  2. ความยืดหยุ่นของป้าย โดยป้ายราคาที่ดีจะต้องมีคุณสมบัติในการยืดหยุ่น ไม่แตก หักและเปราะง่ายที่อาจส่งผลให้สินค้าไม่น่าซื้อและอาจเกิดอันตรายแก่ผู้ซื้อได้อีกด้วย โดยป้ายราคาที่เป็นพลาสติกมีระยะการใช้ที่ค่อนข้างนานอาจมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของราคาและรายละเอียดต่างๆ ของสินค้าจึงต้องมีคุณสมบัติในการยืดหยุ่นเป็นอย่างมาก
  3. ความทนทาน ตามปกติแล้วป้ายราคาที่เป็นพลาสติกนั้นควรมีอายุในการใช้งานมากกว่า 1 ปีและควรจะมีความทนทานไม่แข็งหรืออ่อนจนเกินไปเพื่อให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ยี่ห้อของพลาสติกป้ายราคา

พลาสติกป้ายราคาที่เราพบเห็นในท้องตลาดทั่วๆ ไปนั้นมีหลากหลายรูปแบบ สีสันและยี่ห้อ ซึ่งรูปแบบที่สามารถพบเห็นได้บ่อยครั้ง ได้แก่

  1. ป้ายราคา DBR หรือป้ายราคาอเนกประสงค์พร้อมเทปกาว โดยเป็นป้ายราคาที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อทั่วๆ ไปเหมาะสำหรับสินค้าที่มีการตั้งโชว์แยกออกไปจากสินค้าอื่นๆ อย่างชัดเจนและมีสีของป้ายให้เลือกอีกมากมายเพื่อเพิ่มความโดดเด่นของป้ายราคา ซึ่งถือว่านอกจากจะได้ประโยชน์ในเรื่องของการใช้งานแล้วยังได้ประโยชน์ในเรื่องของความสวยงามอีกด้วย
  2. ป้ายราคา IP หรือป้ายราคาสำหรับชั้นวางสินค้ารางหน้ารูปตัว C โดยเป็นป้ายราคาที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อหรือห้างสรรพสินค้าทั่วๆ ไปเหมาะสำหรับสินค้าที่มีหลากหลายยี่ห้อในชั้นวางสินค้าเดียวกันซึ่งจะช่วยให้สามารถใส่ราคาของหลายๆ สินค้าได้ในเพียงป้ายเดียวเนื่องจากมีขนาดที่ค่อนข้างยาว
  3. ป้ายราคา KE โดยเป็นป้ายราคาที่เหมาะสำหรับสินค้าที่มีหลากหลายยี่ห้อในชั้นวางสินค้าเดียวกัน มีการออกแบบมาให้ใช้กับชั้นวางสินค้าที่เป็นแผ่นกระจกที่มีความหนา 4 – 8 มม. หรือตะกร้าลวดโดยเฉพาะ
  4. ป้ายราคา RAN โดยเป็นป้ายราคาที่เหมาะสำหรับสินค้าที่มีหลากหลายยี่ห้อในชั้นวางสินค้าเดียวกัน มีการออกแบบมาให้ใช้กับชั้นวางสินค้าที่มีขอบหนา 1 – 2 มม. โดยเฉพาะ
  5. ป้ายฮุค VH โดยเป็นป้ายราคาที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อทั่วๆ ไปไม่ว่าจะเป็นชั้นแขวนขนมหรือแซนวิชต่างๆ ซึ่งเหมาะสำหรับสินค้าที่ไม่ได้มีชั้นวางสินค้า มีการออกแบบมาให้ใช้กับฮุคแขวนสินค้าที่มีขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 8 มม. และมีช่องบากกลางขนาด 8 หรือ 11 มม. โดยเฉพาะ

อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้าที่ได้กล่าวไปข้างต้นก็คือ การจัดวาง โดยตัวช่วยที่จะทำให้การจัดวางสินค้าเป็นระเบียบเรียบร้อยได้แก่ ชั้นวางสินค้า

รูปแบบชั้นวางสินค้า

ที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อทั่วๆ ไปนั้นมีหลากหลายแบบ ได้แก่

  1. Sigma หรือ ชั้นวางสินค้าที่สามารถถอดประกอบเองได้ โดยชั้นวางสินค้าประเภทนี้ส่วนมากจะใช้วางพวกผักและผลไม้เนื่องจากสามารถแสดงผลไม้ให้ผู้ซื้อเห็นได้อย่างชัดเจนซึ่งจะช่วยให้ผู้ซื้อเห็นความสดใหม่ของผักและผลไม้ได้อย่างเต็มที่และยังช่วยลดลดการเหี่ยวเฉาลงได้อีกด้วย
  2. ตะกร้าวางผลไม้ ถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของชั้นวางสินค้าที่นิยมนำมาใส่ของสด ผักและผลไม้ เนื่องจากตะกร้าจะช่วยเพิ่มการดึงดูดทางสายตาและกระตุ้นให้เกิดการซื้อที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น
  3. Rotoshelf หรือชั้นที่สามารถหมุนได้รอบ 360 องศา ถือเป็นชั้นวางสินค้าที่ยังไม่ค่อยนิยมมากในประเทศไทยแต่ถือเป็นชั้นวางสินค้าที่มีความสะดวกอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อพนักงานจัดเรียงสินค้าซึ่งจะช่วยให้การจัดเรียงสินค้าขึ้นบนชั้นง่าย สะดวก ลดการสูญเสียสินค้าที่มีอายุสั้นและประหยัดเวลาขึ้นเป็นอย่างมาก
  4. 4eBin & GoMix ถือเป็นชั้นวางสินค้าที่ตอบโจทย์กับยุคปัจจุบันเป็นอย่างมากเพราะช่วยให้ผู้ซื้อสามารถมองเห็นสินค้าได้อย่างชัดเจนและช่วยลดขยะจากบรรจุภัณฑ์สินค้าไปได้มาก จึงส่งผลให้ราคาของสินค้าต่อหน่วยถูกลงไปอีกด้วย โดยนอกจากจะได้ช่วยลดขยะแล้วยังได้ราคาของสินค้าที่ถูกลงอีกด้วย โดยชั้นวางสินค้าประเภทนี้สามารถพบเห็นได้บ่อยตามชั้นใส่ขนมหวานอย่างเยลลี่

ประเภทของชั้นวางสินค้า

ชั้นวางสินค้าที่เราพบเห็นในปัจจุบันสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามการเคลื่อนไหว ได้แก่

  1. ชั้นวางสินค้าแบบไม่ดันสินค้า ถือเป็นชั้นวางสินค้าที่มีหลากหลายรูปแบบทั้งตะกร้าวางสินค้าและชั้นวางสินค้าที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปซึ่งจะช่วยให้สามารถเห็นสินค้าได้อย่างชัดเจนและเหมาะกับสินค้าประเภทที่ไม่ต้องหยิบออกจากแพ็ค
  2. ชั้นวางสินค้าแบบดันสินค้าอย่างอัตโนมัติ ถือเป็นชั้นวางสินค้าที่พบเห็นทั่วไปตามตู้น้ำต่างๆ ซึ่งถือว่ามีประโยชน์ทั้งกับผู้ซื้อและพนักงานขายเป็นอย่างมาก เนื่องจากสินค้าจะถูกดันด้วยแรงโน้มถ่วงมาให้เต็มหน้าชั้นวางอยู่ตลอด ผู้ซื้อสามารถเลือกหยิบและตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่าย ส่วนพนักงานก็สามารถเติมสินค้าได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

จากที่กล่าวมาสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้า ได้แก่ การจัดเรียงสินค้าบนชั้นวางสินค้าและราคาของสินค้าที่เห็นจากพลาสติกป้ายราคา นอกจากนั้นยังมีปัจจัยอื่นๆ อย่าง ยี่ห้อที่ชื่นชอบ เลือกซื้อตามความเคยชิน ความคุ้มค่า ความสวยงามของแพ็คเกจและความสะดวกในการเลือกซื้อ โดยประเภทของพลาสติกป้ายราคาและชั้นวางสินค้านั้นมีหลากหลายประเภทและรูปแบบให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมและจุดประสงค์ในการใช้งาน

Leave a Replay